หนังสือ
งานพิมพ์หนังสือเล่มเล็ก งานพิมพ์นิตยสาร งานพิมพ์แคตตาล็อก และ งานพิมพ์คู่มือ สามารถสร้างแบรนด์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ของคุณ สามารถสั่งพิมพ์ได้ตั้งแต่จำนวนน้อยๆ ไปจนถึงจำนวนมาก ตามความต้องการและตามความเหมาะสมกับการใช้งานอีกด้วย
รูปแบบการเข้าเล่มหนังสือที่นิยมที่สุด
การเข้าเล่มหนังสือ แบบเย็บมุงหลังคา (Saddle Stitching)
การเข้าเล่มแบบเย็บมุงหลังคา เหมาะกับหนังสือที่มีจำนวนหน้าน้อยๆไม่ควรเกิน 80 หน้า เป็นการใช้ลวดเย็บตามรอยแนวพับเพื่อเข้าเล่มหนังสือ
- เหมาะกับหนังสือตั้งแต่ 8หน้า จนถึง 64หน้า
- พร้อมจัดส่งในวันถัดไป
การเข้าเล่มหนังสือ แบบไสกาว (Perfect Binding)
การเข้าเล่มหนังสือแบบไสกาว เป็นวิธีการเข้าเล่มที่ดูเรียบร้อยและมีราคาถูก เหมาะสำหรับหนังสือที่มีจำนวน 70หน้า ขึ้นไป เหมาะสำหรับ การเข้าเล่มนิตยสาร หรือ หนังสือเรียน ที่มีความหนาไม่มาก เพราะถ้ามีความหนามากเกินไปอาจทำให้กาวหลุดออกมาจากเล่มได้
- เหมาะกับหนังสือตั้งแต่ 70หน้า จนถึง 200หน้า
- รูปเล่มให้ความรู้สึกหรูหรา ดูดี
รูปแบบการเข้าเล่มหนังสือต่างๆ
.
การเข้าเล่มหนังสือ แบบเข้าสันห่วง (Ring Binding)
การเข้าเล่มแบบใช้สันห่วง มีข้อดีที่ชัดเจนคือสามารถกางหนังสือได้จนสุด แต่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะต้องใช้ห่วงพลาสติกในการเข้าเล่ม จึงนิยมทำในจำนวนน้อยและงานพิมพ์ไม่หนาจนเกินไปและขนาดของสันห่วงที่ใช้ขึ้นอยู่กับความหนาของจำนวนหน้าหนังสือที่เข้าเล่ม นิยมใช้กับ ปฏิทิน ไดอารี่ สมุดพก
.
การเข้าเล่มหนังสือ แบบเย็บกี่ (Thread Sewing)
การเข้าเล่มแบบเย็บกี่เป็นรูปแบบการเข้าเล่มที่แข็งแรงที่สุด เหมาะกับหนังสือที่มีความหนามากๆ เช่น พจนานุกรม ดิกชันนารี เป็นวิธีการเข้าเล่มที่ค่อนข้างยุ่งยาก ต้องนำกระดาษทั้งเล่มแบ่งออกเป็นส่วนๆ แล้วค่อยนำมาใช้ด้ายเย็บแต่ละส่วนให้ติดกัน แล้วจึงค่อยนำแต่ละส่วนมาเย็บติดกันเป็นเล่มใหญ่อีกที เมื่อทำออกมาเป็นรูปเล่มแล้วจะให้ความรู้สึกถึงความประณีตของรูปเล่มหนังสือ
.
การเข้าเล่มหนังสือ แบบกาวหัว (Padding)
การเข้าเล่มแบบกาวหัว เป็นการเข้าเล่มที่ต้องการใช้งานแบบฉีกกระดาษออกจากเล่มได้ง่าย วิธีการเข้าเล่มคือนำกระดาษมาเรียงกันเป็นตั้งแล้วนำกาวมาทาที่หัวกระดาษ จะทำให้กระดาษติดกันเป็นเล่มและฉีกออกจากเล่มไปใช้ได้ง่าย นิยมใช้กับ สมุดฉีก คูปองส่วนลด กระดาษโน้ต
ขนาดและรูปแบบหนังสือ
หนังสือขนาด A4
A4 เป็นขนาดกระดาษมาตรฐานที่ทุกคนคุ้นเคยและ นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด นิยมใช้เป็น กระดาษหัวจดหมาย หนังสือ นิตยสาร
หนังสือขนาด A5
เป็นขนาดกระดาษที่เหมาะที่สุดในการใช้เพื่อให้ข้อมูลสินค้า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพราะง่ายต่อการวางข้อมูลให้มีความสวยงาม สะดวกต่อการพกพาและน่าอ่าน
หนังสือขนาด A6
เป็นขนาดกระดาษโปสการ์ดมาตรฐาน นิยมนำมาใช้ เป็นโปสการ์ด และ สมุดพก
รูปแบบ หนังสือเล่มเล็ก ที่นิยมใช้กันทั่วไป
- รูปแบบ A4
- รูปแบบ A5
- รูปแบบ A6
- รูปแบบ DL
- รูปแบบสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
- รูปแบบสี่เหลี่ยมขนาดกลาง
ขนาดหนังสือแบบใดที่เหมาะกับคุณ?
หนังสือเล่มเล็ก ใช้เพื่อเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมการขายเนื่องจากมีหลายหน้า และหลายขนาดคุณจึงต้องเข้าใจก่อนว่ารูปแบบใดเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ เพื่อให้เหมาะสมกับเป้าหมายทางการตลาด
ขนาดหนังสือ A6
หนังสือขนาด A6
หนังสือเล่มเล็กขนาด A6 คืออะไร?
หนังสือเล่มเล็ก A6 มีขนาดเล็กกว่าหนังสือขนาด A4 ถึง 2 เท่า นิยมใช้พิมพ์ พ็อคเก็ตบุ๊ค วารสาร หนังสือสวดมนต์ คู่มือท่องเที่ยว สมุดโน๊ต สะดวกต่อการพกพา และเก็บรักษาได้ง่าย ทำให้ง่ายต่อการส่งมอบให้กับคนจำนวนมาก
ขนาดหนังสือ A5
หนังสือขนาด A5
หนังสือเล่มเล็กขนาด A5 คืออะไร?
หนังสือเล่มเล็ก A5 มีขนาดเล็กกว่าหนังสือขนาด A4 ถึง 1 เท่า มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป แต่ยังมีพื้นที่ในการออกแบบและใส่เนื้อหาได้มากมาย นิยมใช้พิมพ์ ไดอารี่ วารสาร หนังสือนิยาย หนังสือสวดมนต์ คู่มือท่องเที่ยว สมุดโน๊ต สะดวกต่อการพกพา และเก็บรักษาได้ง่าย ทำให้ง่ายต่อการส่งมอบให้กับคนจำนวนมาก
ขนาดหนังสือ A4
หนังสือขนาด A4
หนังสือขนาด A4 คืออะไร?
หนังสือขนาด A4 เป็นหนังสือมาตรฐานสากลทั่วไป เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการโปรโมทสินค้า เนื่องจากมีหลายหน้า ซึ่งอาจมีผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆรวมทั้งข้อมูลการติดต่อที่ต้องการแจ้งให้ลูกค้าทราบ นิยมใช้พิมพ์ หนังสือเรียน แคตตาล็อกสินค้า หนังสือคู่มือ นิตยสาร สมุดโน๊ตเป็นต้น
เคล็ดลับที่จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
ทุกวันนี้ การแข่งขันทางการตลาดในยุคดิจิตอล เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและเข้าถึงได้ในวงกว้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การใช้หนังสือเพื่อการประชาสัมพันธ์จะเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น การใช้หนังสือเป็นเรื่องเรียบง่าย แต่ก็ยังเป็นตัวช่วยที่ดีทางการตลาดที่ทำได้รอบด้าน ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความท้าทายที่จะต้องคิดค้นและพัฒนาวิธีการสื่อสาร ที่จะทำอย่างไรให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
1.ทำในสิ่งที่คุณสัญญา
สิ่งแรก คุณต้องรู้ก่อนว่ากำลังทำอะไรและทำใด้ดี เพราะจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในบริการของคุณ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เสมอ คือหากลูกค้ารู้สึกประทับใจ โอกาสที่ลูกค้าจะแนะนำเพื่อนๆ คนรอบข้าง และครอบครัว มาใช้บริการกับเรานั้นมีสูงมาก
2.ระดมสมอง ระดมความคิดก่อนลงมือออกแบบ
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นเรื่องแรกๆคือ การออกแบบเครื่องมือทางการตลาด ให้มีความโดดเด่นและสามารถสร้างจุดสนใจ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย เช่น การพิมพ์โบรชัวร์ นามบัตร หนังสือเล่มเล็กๆ เพราะเครื่องมือเล็กๆเหล่านี้จะเป็นตัวสื่อสารที่ยิ่งใหญ่ให้กับบริษัทของคุณให้ได้รับความสนใจมากขึ้น
3.ค้นหาสถานที่ที่คุณต้องการประชาสัมพันธ์
ต้องคำนึงถึงคือสินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทใด เมื่อรู้ถึงกลุ่มเป้าหมายแล้ว เราก็จะนึกถึงสถานที่ที่กลุ่มเป้าหมายจะพบเห็นสื่อโฆษณาของเราได้ง่ายขึ้น จะได้ไม่ต้องเสียเวลานำสื่อโฆษณาไปสื่อในสถานที่ที่ไม่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ การใช้โปรโมชั่นแบบสั้นๆครั้งเดียวก็เป็นการที่จะช่วยทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษได้อีกด้วย
4.ต้องรู้จักสินค้าของตัวเองให้ดีที่สุด
เมื่อคุณรู้จักสินค้าของคุณดีแล้ว คุณจะสามารถอธิบายข้อมูลของสินค้าได้อย่างกระชับและชัดเจนได้คุณภาพ ไม่ต้องเสียเวลากับการให้ข้อมูลจำนวนมากแต่ไม่ได้คุณภาพ
5.การจัดกิจกรรมเพื่อโปรโมทสินค้า
การจัดกิจกรรม การจัดงานแสดงสินค้า เป็นอีกวิธีที่ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์สินค้าให้ผู้คนได้รู้จัก และสามารถใช้ช่วงเวลานี้ได้แจกสื่อโฆษณาเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้อ่านข้อมูลอย่างละเอียดอีกด้วย
วิธีการง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณได้บอกเล่าเรื่องราวสินค้าของคุณได้อย่างน่าสนใจ!
คุณนึกถึงสิ่งที่น่าเบื่อเมื่อได้อ่านบางอย่างครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่? เพราะความรู้สึกแบบนั้นจะทำให้คุณหลีกเลี่ยงและจะไม่นำมาใช้กับสื่อประชาสัมพันธ์ของคุณอย่างแน่นอน
เคล็ดลับที่จะสามารถนำมาใช้ทำบทความเพื่อโปรโมท คือบทนำและวลี และการใช้ตัวหนาที่หัวข้อหรือข้อความที่ต้องการเน้นเป็นพิเศษ จะช่วยทำให้ผู้อ่านได้ค้นหาสิ่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และการอธิบายถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นการ ทำแคตตาล็อก หรือ ทำคู่มือ ก็จะช่วยทำให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นอีกด้วย
งานพิมพ์หนังสือเล่มเล็กมีหลายแบบหลายสไตล์ ซึ่งแต่ละแบบก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้อ่านได้แตกต่างกันออกไป การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
- หนังสือ(เย็บมุงหลังคา) เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการอธิบายรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องใช้โปรโมชั่นใหม่
- หนังสือ(เย็บกี่) เหมาะกับหนังสือที่ต้องการโชว์ถึงความประณีต สะอาด เพราะเป็นการเข้าเล่มที่แข็งแรงและดูเป็นมืออาชีพที่สุด
- หนังสือ(ปกแข็ง) หนังสือที่เข้าเล่มด้วยการใช้ปกแข็งก็เป็นอีกรูปแบบ ที่ทำให้หนังสือดูมีค่า และแข็งแรงคงทนกว่าหนังสือประเภทอื่นๆ